Por que os preços continuam a subir? Venha entender o impacto da inflação de forma mais aprofundada

เมื่อบางปีก่อน 50 บาทซื้อข้าวได้หลายจาน แต่วันนี้ซื้อได้เพียงจานเดียว นี่ไม่ใช่เพราะเงินหดตัว แต่เพราะภาวะเงินเฟ้อกำลังเกิดขึ้นรอบตัวเราทุกคน ราคาน้ำมัน ก๊าซ พริก ไข่ ลวกขึ้นไปอีก ทำให้ค่าครองชีพพุ่งสูง และกระเป๋าประชาชนรั่วไหล

ผลกระทบเงินเฟ้อต่อชีวิตจริง: ของแพง เงินค่า

เมื่อเงินเฟ้อมา ใครได้เปรียบ ใครเสียเปรียบ?

สิ่งที่ลึกลงไปกว่าการปรับราคาคือการเปลี่ยนแปลงของอำนาจการซื้อนั่นเอง ปีที่ผ่านมา เนื้อสุกรราคา 137.5 บาท/กิโลกรัม ปีนี้พุ่งขึ้นเป็น 205 บาทแล้วก็ปรับลงมาเป็น 133 บาท น้ำมันเชื้อเพลิง ตั้งแต่ 28 บาทขึ้นไปจนถึง 40 บาท/ลิตร ก๊าซหุงต้ม 318 บาทพอ 393 บาท กรรมการ 423 บาท

ใครได้ประโยชน์จากสถานการณ์แบบนี้? พ่อค้า ผู้ประกอบการ ผู้ถือหุ้น และนายธนาคาร - พวกเขาสามารถขยับราคาสินค้าและสามารถสั่งให้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นได้ แต่ใครเสีย? คนกินเดือนเดือน - เพราะไม่ว่าเดือนเดือนจะขึ้นก็ขึ้นในอัตราที่น้อยกว่าการเพิ่มราคาสินค้าเสมอ

ทำไมถึงเกิดเงินเฟ้อ? 3 สาเหตุหลักที่ต้องรู้

1. ความต้องการ > อุปทาน (Demand Pull)
หลังโควิด ทุกคนอยากเก็บตัวไม่ได้เงินออก แต่พอเปิดเมืองก็โชว์ money ออกมาเท่าท้ายลำ พอเศรษฐกิจฟื้นตัว ความต้องการสินค้าพุ่งสูง แต่โรงงาน ฟาร์ม ยังผลิตไม่ทัน ทำให้ผู้ขายได้สิทธิในการขึ้นราคา

2. ต้นทุนผลิตพุ่ง (Cost Push)
น้ำมันดิบแพง ค่าขนส่งแพง ชิปเซมิคอนดักเตอร์ขาดแคลน โลจิสติกส์ยุ่งเหยิง คำนี้เหล่านี้ต้องผ่านให้ลูกค้า ผู้ผลิตตัดสินใจ “ไม่ได้ แค่ขยับราคาขึ้นไปเถอะ”

3. มีเงินหมุนเวียนไม่พอ (Printing Money)
เมื่อรัฐบาลพิมพ์ธนบัตรเพิ่มเข้ามาหลายแสน ทำให้มีเงินไหลเวียนมากกว่าสินค้า ผลคืออัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ในภาวะปัจจุบัน สาเหตุหลัก มาจากการรวมตัวของทั้ง 3 อย่าง อีกทั้งสงครามรัสเซีย-ยูเครน ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ทำให้อุปทานอาหารและพลังงานหาสาหัส

เงินเฟ้อ VS เงินฝืด: ศัตรูคนละคนของเศรษฐกิจ

หลายคนสับสน เงินเฟ้อ (ราคาสูงขึ้น) กับ เงินฝืด (ราคาลดลง) แล้วคิดว่าไม่เป็นไร เนื่องจากเงินฝืดน่าจะดี แต่จริง ๆ แล้วทั้งสองอย่างเป็นภัยต่อเศรษฐกิจเหมือนกัน

เงินเฟ้อ = ราคาพุ่ง ได้ประโยชน์คือผู้ที่มีสินทรัพย์ ผู้ที่อยู่ข้างต้น เสียเปรียบคือคนกินดอกเบี้ยต่ำ คนมีรายได้คงที่

เงินฝืด = ราคาตกต่ำ ฟังดูดี แต่คนทั้งโลกจะชะลอการซื้อ ธุรกิจปิดตัว คนตกงาน เศรษฐกิจเข่นขิด

อัตราเงินเฟ้อในไทยที่เหมาะสมมักจะอยู่ที่ 1-3% ต่อปี แต่พอเกิน 5% ขึ้นไปก็เริ่มเป็นปัญหา บนปี 2565 ไทยเจอ 7.10% - สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2517

ผลกระทบเงินเฟ้อแบบ 360 องศา: ประชาชน ธุรกิจ เศรษฐกิจ

ผลต่อกระเป๋าประชาชน
อำนาจการซื้อลดลง 20% หมายความว่าที่เคยซื้อได้ 5 ชิ้น ตอนนี้ซื้อได้ 4 ชิ้นเท่านั้น บิลไฟ บิลน้ำ ค่าอาหาร ทั้งหมดเงิน

ผลต่อผู้ประกอบการ
สถานการณ์ดูเสรจเนื่องจากสามารถขยับราคาขึ้นได้ แต่ที่แท้จริง หลายธุรกิจขนาดกลางและเล็ก เลือกที่จะเข้าหนี้เพราะลูกค้าไม่ซื้อของแพง ยอดขายตก ต้นทุนสูงขึ้น กำไรแล้ว ต้องชะลอขยายธุรกิจ ลดจำนวนคน ตัดโปรแกรมฝึกอบรม

ผลต่อเศรษฐกิจรวม
ถ้าเงินเฟ้อสูงติดต่อ ก็เข้าสู่ภาวะ “Stagflation” = ราคาสูง + การจ้างงานเช่า + เศรษฐกิจชะลอ ซึ่งเป็นเวทีของ “ไม่มีใคร” แต่การเพิ่มดอกเบี้ยก็จำเป็น เพราะถ้าไม่ก็พอ Hyper Inflation เลย

ลงทุนอย่างไรตอนเงินเฟ้อ? กลยุทธ์ 5 ประเภท

1. หุ้นกลุ่มธนาคาร
ธนาคารมีรายได้จากผลต่างดอกเบี้ย พอธนาคารกลางขึ้นอัตราดอกเบี้ย ธนาคารพาณิชย์ก็ดึงเบี้ยสูงขึ้น กำไรพุ่ง

2. ทองคำ
ราคาทองเคลื่อนไหวไปในแนวเดียวกับเงินเฟ้อ ยิ่งเงินเฟ้อสูง ราคาทองสูง ยิ่งขึ้น เพราะต้องการเก็บมูลค่า

3. อสังหาริมทรัพย์
ค่าเช่าขึ้นตามเงินเฟ้อ อสังหาฯ ไม่ผันผวนตามตลาดหุ้น เหมาะสำหรับคนที่มีเงินเยอะและต้องการคืนเงินนิ่ม ๆ

4. ตราสารหนี้แบบ Floating Rate
อัตราดอกเบี้ยจ่ายปรับตามสถานการณ์เงินเฟ้อ ตราสารหนี้แบบ Inflation Linked นั้นสนใจยิ่งขึ้น

5. หุ้นอาหารและกำลังสะสม
ขาดแคลนอาหารทั่วโลก + ราคาเพิ่มขึ้น + คนต้องกินต้องใช้ = หุ้นกลุ่มนี้ได้เปรียบ มีกำลังในการกำหนดราคา

ระหว่างนี้ ควรทำอะไร?

วางแผนการลงทุนแบบแข็ง - ฝากเงินได้ดอกต่ำมาก จึงต้องหาทีเดียวที่ให้ผลตอบแทนเหนือเงินเฟ้อ

ลดหนี้เสีย - นี่คือเวลาที่อัตราดอกเบี้ยขึ้น หนี้เดิมจึงแพงขึ้นตามไป

ยั้งคิดยั้งทำการใช้จ่าย - ซื้อเฉพาะของจำเป็น หลีกเลี่ยงซื้อขยะที่ไม่ต้อง

ติดตามข่าวเศรษฐกิจ - เงินเฟ้อจะตัดสินว่านโยบายจะไป ตัดสินว่าหุ้นเคลื่อนไหว บิตคอยน์เคลื่อนไหว ทั้งหมด

สรุป: เงินเฟ้อไม่ใช่เศษ แต่ต้องรู้จักใช้ให้ชาญฉลาด

ผ่านมายาวนาน ไทยมีสถาบันการเงินอยู่ในตำแหน่งที่สามารถควบคุมได้ แต่ปี 2565 ดัชนีราคาผู้บริโภคขึ้นถึง 7.10% เทียบกับปี 2564 บ่งบอกว่าสภาวะไม่ธรรมชาติ ถ้านักลงทุนไม่เตรียมตัว กำไรอาจลอยไป

ทำไมถึงต้องสนใจ ผลกระทบเงินเฟ้อ?

เพราะเงินของเรา ถ้าไม่นำไปลงทุนให้ขยายตัว ก็จะหดตัวไปเองไม่รู้สึก ลูกค้าที่ทำอะไรไม่เลยแต่เก็บเงินฝากธนาคาร 1-2% ต่อปี ในขณะเงินเฟ้อ 5-7% แมตฉะนั้นสูญเสียอำนาจการซื้อวันละน้อยนิด

นั่นคือเหตุที่ประชาชนต้องเข้าใจ ผลกระทบเงินเฟ้อ แล้วเลือกลงทุนให้ชาญฉลาด ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ หรือสินทรัพย์ดิจิทัล ให้มูลค่าเงินของเราอยู่ท่ีเดิมหรือสูงขึ้น

Ver original
Esta página pode conter conteúdos de terceiros, que são fornecidos apenas para fins informativos (sem representações/garantias) e não devem ser considerados como uma aprovação dos seus pontos de vista pela Gate, nem como aconselhamento financeiro ou profissional. Consulte a Declaração de exoneração de responsabilidade para obter mais informações.
  • Recompensa
  • Comentar
  • Republicar
  • Partilhar
Comentar
0/400
Nenhum comentário
  • Fixar

Negocie cripto em qualquer lugar e a qualquer hora
qrCode
Digitalizar para transferir a aplicação Gate
Novidades
Português (Portugal)
  • 简体中文
  • English
  • Tiếng Việt
  • 繁體中文
  • Español
  • Русский
  • Français (Afrique)
  • Português (Portugal)
  • Bahasa Indonesia
  • 日本語
  • بالعربية
  • Українська
  • Português (Brasil)