لماذا يجب أن نفهم "الاقتصاد الكافي" في هذا العصر

ถ้าคุณเคยสงสัยว่าทำไมคนไทยถึงพูดถึง “เศรษฐกิจพอเพียง” บ่อยครั้ง ระบบคิดนี้ที่คิดค้นมาเพื่อแก้ปัญหาจริงของประชาชน ไม่ใช่แค่ปรัชญาทฤษฎี แต่เป็นกรอบแนวคิดในการดำเนินชีวิตที่ทำให้คนสามารถพึ่งพาตนเองได้ ไม่ต้องอยู่ใต้อำนาจของตลาด หรือกำพร้อของสถานการณ์เศรษฐกิจภายนอก

เศรษฐกิจพอเพียงคืออะไรจริงๆ

เศรษฐกิจพอเพียง ไม่ใช่การใช้ชีวิตแบบลดหลั่น หรือการทำทุกอย่างด้วยตัวเองแบบออฟกริด คำว่า “พอเพียง” ที่ว่านี้มีความหมายเชิงลึก คือ การทำให้เกิดความสมดุลในการดำเนินชีวิต ไม่เกิน ไม่ขาด พออีกเกบไว้สำหรับยุคเฉพาะหน้า

ถ้าอธิบายให้ชัด ระบบนี้ตั้งอยู่บนพื้นฐาน 3 ห่วง 2 เงื่อนไข ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ เศรษฐกิจพอเพียง กลายเป็นทฤษฎีที่สามารถนำไปปฏิบัติจริงได้:

3 ห่วงของพอเพียง:

  • ความพอประมาณ - หารายได้ด้วยวิธีสุจริต ใช้จ่ายให้เหมาะกับฐานะ ไม่ฟุ่มเฟือยจนต้องกู้ยืม
  • ความมีเหตุผล - ก่อนทำอะไร ต้องคิดให้ดี ตรวจสอบศักยภาพของตัวเอง วางแผนรอบคอบ ไม่ตัดสินใจแบบอารมณ์นึกร้อน
  • ระบบภูมิคุ้มกันที่ดี - เตรียมตัวรับมือความเปลี่ยนแปลงในชีวิต มีแผนสำรอง สามารถปรับเปลี่ยนได้เมื่อเกิดสถานการณ์ที่ไม่คาด

2 เงื่อนไขสำคัญ:

  • ความรู้ - เศษความรู้ที่หลากหลาย ทั้งจากการศึกษา ประสบการณ์ และการเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ ช่วยให้เราตัดสินใจได้ดีขึ้น
  • คุณธรรม - การมีความซื่อสัตย์สุจริต ความขยัน ความยุติธรรม ทำให้การดำเนินชีวิตหรือธุรกิจ ยั่งยืนและได้รับความเชื่อถือ

ตั้งแต่ไหนถึงไหน กรอบแนวคิดนี้จึงเกิดขึ้น

เรื่องราวของ เศรษฐกิจพอเพียง เริ่มต้นในปี พ.ศ. 2517 เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทานพระบรมราโชวาทแก่นิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ท่านเน้นให้ความสำคัญกับการสร้าง “ความพอมี พอกิน พอใช้” ว่าเป็นรากฐานที่สำคัญของการพัฒนาประเทศ

บริบทของสถานการณ์ในช่วงนั้น ประเทศไทยกำลังใช้เงินกู้จากต่างประเทศมหาศาลเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและอุตสาหกรรม ต้องชำระหนี้ด้วยการส่งออกสินค้าเกษตร ผลก็คือ ประชาชนขยายพื้นที่เพาะปลูกอย่างไม่มีการวางแผน ป่าถูกบุกรุก ความเหลื่อมล้ำรายได้เพิ่มมากขึ้น

ครั้งแรก ท่านเตือนสติให้สังคมปฏิบัติตามทางสายกลาง บอกว่า “…เศรษฐกิจแบบพอมีพอกิน ไม่ได้หมายความว่าทุกครอบครัวต้องผลิตอาหารของตัวเอง แต่ว่าในหมู่บ้าน ในอำเภอ ต้องมีความพอเพียง บางสิ่งผลิตได้มากกว่าความต้องการก็ขายได้ แต่ขายไม่ห่างไกล ไม่เสียค่าขนส่งมากนัก…”

ต่อมา เมื่อวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 ประเทศไทยเผชิญกับความวิบัติทางเศรษฐกิจ กรอบแนวคิดนี้ถึงกับได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง คนเริ่มเข้าใจว่า การสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจให้มั่นคง ไม่ใช่เรื่องของการขยายตัว หรือการแข่งขันกับประเทศอื่น แต่เป็นเรื่องของการสร้างการป้องกันภัยให้กับตัวเองก่อน

UN ยกย่องกรอบแนวคิดนี้ และยอมรับเป็น Sustainable Development Goals

ในปี พ.ศ. 2549 องค์การสหประชาชาติ (UN) ได้ยกย่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ว่าเป็น “Developer King” และพิจารณาว่า เศรษฐกิจพอเพียง นั้นสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของโลก (Sustainable Development Goals) ซึ่งเน้นการตอบสนองความต้องการของคนรุ่นปัจจุบัน โดยไม่ส่งผลลบต่อคนรุ่นอนาคต

จากทฤษฎี มาบ้านการปฏิบัติจริง

ในภาคเกษตร

การทำนาสวนผสม - แทนการปลูกแค่ข้าว หลายครัวเรือนเลือกผสมผสาน ปลูกผักสวนครัว ขุดสระเลี้ยงปลา เลี้ยงสัตว์ เมื่อเกิดภัยแล้ง ก็ยังมีผลผลิตจากอื่น ๆ รับมือได้

การเกษตรตามทฤษฎีใหม่ - วิธีการแบ่งที่ดินและเวลา ออกเป็น 3 ขั้นตอน:

  • ขั้นพื้นฐาน: แบ่งที่ดิน 100% เป็น 30:30:30:10 เพื่อการเกษตรผสมผสาน
  • ขั้นก้าวหน้า: รวมกลุ่มเกษตรกร ร่วมมือสร้างผลผลิต สร้างตลาดร่วม เพิ่มอำนาจต่อรองกับพ่อค้าคนกลาง
  • ขั้นสูง: จัดตั้งสหกรณ์ แลกเปลี่ยนความรู้ สร้างระบบเงินทุนชุมชน

ในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม

ผู้ประกอบการที่ปฏิบัติตาม เศรษฐกิจพอเพียง จะ:

  • เลือกทรัพยากรและเทคโนโลยีที่มีต้นทุนต่ำ แต่คุณภาพสูง
  • ควบคุมขนาดผลิตจนเท่ากับขีดความสามารถที่จะบริหารจัดการได้จริง
  • กระจายความเสี่ยง ไม่วางเดิมพันทั้งหมด มองผลกำไรระยาวยาว ไม่โลภใจแค่สั้น ๆ
  • ประพฤติตนด้วยความซื่อสัตย์ ไม่เอาเปรียบลูกค้า คนงาน หรือซัพพลายเยอร์
  • นำวัตถุดิบจากท้องถิ่น สร้างงาน ดูแลชุมชน

ทำไมเราถึงต้องปฏิบัติตาม เศรษฐกิจพอเพียง ในชีวิตประจำวัน

การนำกรอบแนวคิดนี้มาใช้ ไม่ใช่การพลิกโฉมชีวิตให้เปลี่ยนไปเลย แต่เป็นการปรับเปลี่ยนจิตสำนึกและวิธีคิด:

  • ศึกษาหาความรู้อย่างต่อเนื่อง - ทั้งความรู้ทั่วไป และทักษะเฉพาะด้านงานที่ทำ
  • ขยันหมั่นเพียร - มีความอดทนต่อสิ่งที่ลงมือทำ
  • สุจริตประกอบการ - หาบ้าน ค้าหา ทำงาน บนพื้นฐานของความถูกต้อง ไม่คดโกงใคร
  • สมดุลชีวิต - ไม่ทำงานแบบบ้า ๆ จนเสียสุขภาพ เสียครอบครัว
  • รู้จักออม วางแผนการเงิน - ทั้งระยะสั้นและยาว อย่างรอบคอบ
  • ใช้จ่ายอย่างมีเหตุผล - ตามความจำเป็นจริง ตามสถานภาพ ไม่ฟุ่มเฟือยหรือตระหนี่มากเกิน
  • คิดให้ดีก่อนทำ - หาข้อมูล วางแผน พิจารณาผลที่ตามมา

มองกระยะไกล เศรษฐกิจพอเพียง คือตัวเชื่อมไปสู่ความยั่งยืน

ที่สำคัญของ เศรษฐกิจพอเพียง คือ หลักการนี้ไม่ได้ จำกัดเพียงภาคเกษตร แต่สามารถนำไปปรับใช้ได้ทั่วทุกภาค ไม่ว่าจะเป็น:

  • ภาคการเงิน - ธนาคาร บริษัทเงิน
  • ภาคอุตสาหกรรม - การผลิต ผลิตภัณฑ์
  • ภาคอสังหาริมทรัพย์ - การพัฒนาที่ดิน
  • การค้าการลงทุนระหว่างประเทศ - อุตสาหกรรมส่งออก

ความสำคัญ คือ ทุกภาคส่วนต้องยึดหลักทางสายกลาง ไม่ล่อใจ ไม่ประมาท เศรษฐกิจพอเพียง จึงกลายเป็นเครื่องมือที่ทำให้สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม สามารถอยู่ร่วมกันไปได้อย่างยั่งยืน ไม่ใช่แค่เคยครั้งหนึ่ง แต่เป็นการสร้างความมั่นคง ที่ยืนยาวไปในอนาคต

شاهد النسخة الأصلية
قد تحتوي هذه الصفحة على محتوى من جهات خارجية، يتم تقديمه لأغراض إعلامية فقط (وليس كإقرارات/ضمانات)، ولا ينبغي اعتباره موافقة على آرائه من قبل Gate، ولا بمثابة نصيحة مالية أو مهنية. انظر إلى إخلاء المسؤولية للحصول على التفاصيل.
  • أعجبني
  • تعليق
  • إعادة النشر
  • مشاركة
تعليق
0/400
لا توجد تعليقات
  • Gate Fun الساخن

    عرض المزيد
  • القيمة السوقية:$3.53Kعدد الحائزين:2
    0.00%
  • القيمة السوقية:$3.56Kعدد الحائزين:2
    0.00%
  • القيمة السوقية:$3.53Kعدد الحائزين:2
    0.04%
  • القيمة السوقية:$3.5Kعدد الحائزين:1
    0.00%
  • القيمة السوقية:$3.5Kعدد الحائزين:1
    0.00%
  • تثبيت